โปรแกรมที่ใช้ในโรงแรม ยุคDigital  

โรงแรมเป็นสถานที่บริการที่เน้นประสบการณ์ในการพักผ่อนดังนั้นโปรแกรมที่ใช้ในโรงแรมในยุคที่เรามีผู้มาใช้บริการในโรงแรมเพิ่มมากขึ้น พนักงานไม่สามารถบริการได้ทั่วถึงเราจึงหาวิธีการทุ่นแรงโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในส่วนบริการต่างๆในโรงแรมให้รวดเร็วและตอบโจทย์โดยผู้เข้าพักในโรงแรมได้ใช้บริการได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

     นอกเหนือจากการใช้งานฟังก์ชั่นหลักของ โปรแกรมโรงแรม สำหรับกระบวนการเช็คอินเข้าเช็คเอาท์ที่พักแล้ว ยังมีมีส่วนของพนักงานยกกระเป๋าไปส่งที่ห้องพัก ในโรงแรมจะมีบริการสั่งอาหารเข้าไปรับประทานในห้องพัก และสามารถรับประทานได้ตามห้องอาหารต่างๆที่มีไว้บริการ

  โปรเเกรมที่ใช้ในโรงเเรม ต่างๆเรามาดูเทรนด์ล้ำสมัยที่ใช้ในโรงแรมกัน

• AI Face Recognition

คือระบบ การ Check-in ออกบัตรเข้าห้องพัก ออกรหัสไวไฟ และการใช้ใบหน้าเพื่อเข้าใช้สถานที่บริการส่วนต่างๆในโรงแรม รวมไปถึงการใช้ใบหน้าเพื่อลงบิลค่าใช้จ่าย แทนการถามชื่อและห้องพักแบบเดิม โดยวิธีการใช้ ไบโอเมตริกซ์เพื่อรักษาความปลอดภัยการเข้าห้องพักและลิฟต์ ผู้เข้าพักโรงแรมสามารถจอง เลือกตำแหน่งห้องและทิศทางที่ห้องหันไปทางแอพมือถือ ตัวอย่างโรงแรมที่นำระบบนี้มาใช้ในปัจจุบัน คือ โรงแรม FlyZoo ในเมืองหางโจว ประเทศจีน ระบบนี้พัฒนาโดยกลุ่มอาลีบาบา 

• พนักงานหุ่นยนต์

แม้โรงแรมจะเป็นธุรกิจบริการและขาย Service Mind เป็นหลักแต่มนุษย์เท่านั้นที่ตอบสนองมนุษย์ด้วยกันได้ดีที่สุดเป็นหลัก แต่ปัจจุบันนี้เริ่มมีการทดลองนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมโรงแรม อีกเหตุผลที่เป็นหนึ่งในแนวโน้มเทคโนโลยีโปรแกรม ที่ ใช้ ใน โรงแรม เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เพิ่มฟังชั้นความต้องการ

ได้ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคต มีตัวอย่างของโรงแรมที่ใช้หุ่นยนต์ไดโนเสาร์น่ารักๆทำสิ่งต่างๆ ชื่อ Henn na Hotel Maihama Tokyo ในประเทศญี่ปุ่น มีการต้อนรับแขกเมื่อมาถึง เช็คอินเข้าห้องพัก หรือให้ข้อมูลการท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หุ่นยนต์ไดโนเสาร์สามารถช่วยงานทำความสะอาด ขนส่งสัมภาระ การรักษา

ความปลอดภัย รูมเซอร์วิส และห้องอาหาร ดูดฝุ่น  และฆ่าเชื้อโรค ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ที่พักของคุณปลอดภัยจากโควิดในช่วงนั้นที่ยังระบาดอย่างร้ายแรง หุ่นยนต์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นและมีความพร้อมที่ดีขึ้นในการปรับปรุงประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสามารถป้องกันอาชญกรได้ในยามวิกาล

• ระบบแสงสีเสียง เพลงใต้น้ำ ดนตรี ดีเจส่วนตัว

สายปาร์ตี้ต้องมาโรงแรมนี้อยู่ใกล้ประเทศไทยบินไปแค่ 2ชั่วโมงเอง เป็นโรงแรมในเครือของโรงแรมมาริออท ชื่อ W Hotel Sentosa ได้ยกระดับสายปาร์ตี้ โดยวิธีการลงเล่นน้ำซึ่งมีลำโพงใต้น้ำ นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับ

ดนตรีริมสระน้ำในห้องอาบน้ำส่วนตัว มี iPad ให้ยืมบริการ  เทคโนโลยีโปรแกรมที่ใช้ในโรงแรมด้วยระบบเสียงดนตรีได้ขยายไปถึงห้องพักส่วนตัวในโรงแรม ซึ่งมาพร้อมกับดีเจส่วนตัวอีกด้วย  ระบบแสงไฟ LED ส่องสว่างทั่วทั้งโรงแรม สร้างโทนสีที่มีสไตล์และล้ำยุค 

• IP infrastructure ปุ่มเดียวควบคุมทั้งจักรวาล

เป็นระบบมัลติมีเดียที่สั่งการทุกอย่างในโรงแรม เช่นสามารถเปลี่ยนอุณภูมิห้องได้ เปลี่ยนอุณภูมิน้ำ ฟังดนตรี ระบบจัดการทำความสะอาดห้องพัด เช็คโตะว่างเพื่อจองรัประทานอาหาร สั่งอาหารล่วงหน้า นาฬิกาปลุก

• เช็คอินผ่านมือถือโดยใช้ application

เทคโนโลยีที่ใช้ในโรงแรมโดยการเช็คอินเข้าที่พักผ่านมือถือช่วยให้ลูกค้าสามารถเช็คอินเข้าที่พักโดยใช้ application รวมถึงการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เนื่องจากทางโรงแรมต้องการเป้าหมายที่จะลดความขัดแย้งให้กับลูกค้า นอกจากนี้ เทรนด์เทคโนโลยีโรงแรมทั้งสองนี้สามารถปรับปรุงความสะดวกสบายและเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าโดยการลดเวลา

รอคอย ตัวเลือกสำหรับการเช็คอินผ่านมือถือสามารถช่วยให้โรงแรมเลิกกำหนดเวลาที่ผู้เข้าพักต้องเช็คอิน หลังบ่าย 2เท่านั้น กระบวนการเช็คอินสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับพนักงานบริการโรงแรม

• สายรัดข้อมือแสกนจ่าย

จากตัวอย่างโรงแรมในเครือของ Walt Disney  จะมีสายรัดข้อมือสำหรับผู้เข้าพักในโรงแรม สามารถใช้สแกนเพื่อเข้าห้องพักได้ จ่ายเงินตาม Outlet ต่างๆ ในโรงแรมและรีสอร์ต ที่อยู่ในเครือสังกัดธุรกิจแบรนด์เดียวกัน ใช้สแกนเพื่อเข้าใช้บริการในส่วนของสวนน้ำ และยังสามารถใช้ซื้อบัตรผ่านประตูสำหรับท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ในเครืออีกด้วย เพื่อความคล่องแคล่วในการพักผ่อน แขกผู้เข้าพักไม่จำเป็นต้องพกสัมพาระไปด้วยตลอดเวลา 

• ที่ลิฟท์จอดรถมีระบบเซนเซอร์อัจฉะริยะ

    ผู้เข้าพักอาจไม่ต้องวนจอดบนตึกอีกต่อไปเเค่นำรถเข้าไปจอดในลิฟท์ขนาดใหญ่รับบัตรจอดล๊อครถเสร็จก็สามารถจัดการเวลาได้รวดเร็วขึ้น 

สรุป

ไม่ว่าเทคโนโลยีด้านไหนๆ โปรเเกรมที่ใช้ในโรงแรม ที่มอบความสะดวกสบายให้ผู้เข้าพัก จุดประสงค์ของเหตุผลเทคโนโลยีโปรแกรมที่ใช้ในโรงแรมจึงมีความสำคัญมากขึ้น เพราะ การเพิ่มขึ้นของผู้คนที่ใช้บริการในโลกยุคดิจิทัลบ่งชี้ว่าการแข่งขันทางด้านบริการนั้นรุนแรง ดังนั้น โรงแรมจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและระบบที่มีอยู่หากโรงแรมสร้างความประทับใจ และประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้คนที่มาใช้บริการ ในอนาคตก็จะรักษาลูกค้าที่ภักดีไว้ได้

เทคโนโลยีโรงแรมกำลังมีบทบาทสำคัญและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในขณะที่เราเปิดรับเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเทคโนโลยีไม่ได้เข้ามาแทนที่ผู้คน แต่เราเชื่อว่า พนักงานจะมีเวลามากขึ้นที่จะอยู่กับแขกและมอบจุดติดต่อที่มีความหมายและเป็นส่วนตัวตลอดการเดินทางของแขก เพราะเทคโลโลยีมีไว้เพื่อทุ่นแรง และ ความรวดเร็วเท่านั้น

บทบาทของเทคโนโลยีโปรแกรมที่ใช้ในโรงแรมควรเข้ามาแทนที่งานที่ต้องทำด้วยตนเองที่น่าเบื่อ จำเจ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น